4.1
ปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ
การขยายตัวของอุตสาหกรรม
และการใช้เทคโนโลยี
ทำให้เกิดปัญหาสภาวะแวดล้อมทางธรรมชาติในสังคมไทยมากขึ้น เช่น ปัญหาการทำลายป่าไม้ ปัญหาความเสื่อมโทรมของดิน ปัญหาน้ำเสีย
และอากาศเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม
เป็นต้น ปัญหาต่าง ๆ
สมควรที่จะได้ศึกษาข้อเท็จจริงถึงสภาพปัญหาและแนวทางแก้ไขเพื่อที่นำไปเป็นข้อมูลในการจัดการศึกษาและพัฒนาหลักสูตร เช่น การกำหนดเนื้อหาในเรื่องสภาพแวดล้อม
การปลูกฝังการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี
และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
การใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ฉลาดถูกต้อง
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราสามารถกำหนดลงในเนื้อหาของหลักสูตรในระดับต่าง ๆ
ตามความเหมาะสม เพื่อที่ปลูกฝังความรับผิดชอบในสิ่งเหล่านี้ให้เกิดในผู้เรียน
และประเทศก็จะมีพลเมืองที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของประเทศ
ปัญหาเกี่ยวสิ่งแวดล้อมในอนาคตก็จะได้รับการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น
4.2
ปัญหาทางด้านสังคม
ปัญหาทางสังคมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
มักจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสังคม
ซึ่งมีสาเหตุจากความเจริญทางด้านวัตถุและวัฒนธรรมตะวันตกหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยอิทธิพลของการสื่อสาร
ทำให้คนไทยรับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาโดยเฉพาะในหนุ่มสาวหรือเยาวชน
ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางด้านความคิดระหว่างคนหนุ่มสาวกับผู้ใหญ่ที่ยึดมั่นในวัฒนธรรมเดิม ทำให้เกิดปัญหากับยาเสพติด ปัญหาทางเพศ
ปัญหาทางอาชญากรรม
ซึ่งการศึกษาปัญหาเหล่านี้จะเป็นข้อมูลในการจัดหลักสูตรเพื่อเตรียมเยาวชนสามารถดำรงอยู่ในสังคมที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีความสุขและไม่เกิดปัญหา
4.3 ปัญหาด้านเศรษฐกิจ
โดยพื้นฐานนั้นประเทศไทยเป็นประเทศที่มีพื้นฐานดั้งเดิมจากเกษตรกรรม
ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีพื้นฐานอยากจนและมีการศึกษาต่ำ ประชาชนเกิดการว่างงาน
การย้ายถิ่นทำกินชนบทเข้าสู่เมือง
หรืออัตราค่าจ้างแรงงานต่ำ
สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาทางเศรษฐกิจยาวนานของประเทศ ประกอบกับในปัจจุบันประเทศต่าง ๆ
ประสบกับภาวะปัญหาทางด้านเศรษฐกิจของโลกทั้งประเทศไทยด้วย ทำให้ปัญหาทางเศรษฐกิจในอดีต ปัจจุบัน และแนวโน้มปัญหาที่เกิดในอนาคต เพื่อจะให้นำข้อมูลทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยกำหนดจุดหมายของหลักสูตร การสร้างหลักสูตรหลายวิชา หรือการบรรจุเนื้อหาสาระให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถและประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ
ทำให้ผู้ที่จบการศึกษาในระดับต่าง ๆ สามารถออกไปประกอบอาชีพได้
และสามารถดำรงอยู่ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ โดยไม่เป็นปัญหาหรือภาระของสังคม หรือจัดการศึกษาเพื่อให้บุคคลสามารถสร้างงานได้
4.4
ปัญหาทางด้านการเมืองการปกครอง
สภาพปัญหาทางด้านการเมืองของไทยเป็นมาอย่างยาวนาน
สมควรที่การศึกษาจะเข้าไปมีบทบาทในการพัฒนาด้านการเมือง
คือการให้ความรู้และปลูกฝังในเรื่องของประชาธิปไตย เพราะประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในท้องถิ่นชนบทมีความรู้เข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตยไม่ดีพอ นอกจากนั้นประชาชนส่วนใหญ่
ยังขาดความสำนึกและความรับผิดชอบต่อวิถีทางแบบประชาธิปไตย ซึ่งจะเห็นได้จากการเข้ามีบทบาททางการเมืองยังเป็นเรื่องของคนกลุ่มน้อย หรือจำนวนผู้ไปใช้เสียงในการเลือกตั้งแต่ละครั้งมีจำนวนน้อยมากเมื่อเปรียบกับผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งทั้งหมด
แม้ว่านักศึกษามีอายุที่จะใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้แล้วแต่อัตราส่วนผู้ใช้สิทธิ์ยังน้อยเหมือนเดิม ในเมื่อผู้ได้รับการศึกษาที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องประชาธิปไตยเป็นอย่างดี ยังขาดความสำนึกความรับผิดชอบเช่นนี้
นักพัฒนาหลักสูตรจึงควรที่จะได้ตระหนักและพัฒนาหลักสูตร
เนื้อหาวิชาหรือกิจกรรมการเรียนการสอนให้สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีจิตสำนึก และความรู้สึกรับผิดชอบต่อการปกครองของประเทศ
จากสภาพปัญหาต่าง
ๆ ที่กล่าวมาเป็นเพียงตัวอย่างที่นักพัฒนาหลักสูตรจะตั้งคำนึงถึง
ทั้งนี้เพื่อให้หลักสูตรที่ร่างขึ้นมามีส่วนแก้ปัญหาสังคมและประเทศชาติโดยส่วนรวมบางปัญหาอาจแก้ได้โดยตรง บางปัญหาการศึกษาแก้ไขโดยทางอ้อม ซึ่งเป็นหน้าที่ของนักพัฒนาหลักสูตรจะต้องพิจารณาปัญหาเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจเลือกทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรเพื่อสร้างคนที่เป็นประโยชน์แก่สังคม หรือคนที่จะไปพัฒนาหรือแก้ปัญหาสังคมต่อไป
ขั้นตอนในการพิจารณาปัญหาและแนวทางแก้ไขมีดังนี้
1.
พิจารณาปัญหาที่ระบบการศึกษาเอื้ออำนวยในการปรับปรุงให้ดีขึ้น
2.
พิจารณาสาเหตุ ข้อเท็จจริงสภาพปัญหา
3.
พิจารณาวิชา เนื้อหาและประสบการณ์การเรียนรู้ที่เหมาะสม
4.
พิจารณากิจกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น